รักศาล ร่วมใจ รับใช้ประชาชน เป้าหมายสูงสุดสร้างความเชื่อมั่นศรัทธาประชาชนที่มีต่อศาลยุติธรรม

ประธานศาลฎีกา ตรวจเยี่ยมศาลยุติธรรมภาค 7 ใน 4 จังหวัดสมุทรสาคร-สมุทรสงคราม-เพชรบุรี -ประจวบคีรีขันธ์ ย้ำนโยบายรักศาล ร่วมใจ รับใช้ประชาชน เป้าหมายสูงสุดสร้างความเชื่อมั่นศรัทธาประชาชนที่มีต่อศาลยุติธรรม แนะบุคลากรปรับเปลี่ยนวิธีการทำงานให้ทันสมัยรองรับสภาวการณ์ปัจจุบัน สภาพเศรษฐกิจสังคมที่เปลี่ยนแปลงไป

โดยระหว่างวันที่ 10 - 11 สิงหาคม 2566 นายโชติวัฒน์ เหลืองประเสริฐ ประธานศาลฎีกา พร้อมคณะ เดินทางไปตรวจเยี่ยมและมอบนโยบายแก่ผู้พิพากษา ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ ผู้พิพากษาสมทบ และผู้ประนีประนอม ในพื้นที่ศาลยุติธรรมภาค 7 รวม 4 จังหวัด ประกอบด้วย จังหวัดสมุทรสาคร สมุทรสงคราม เพชรบุรี และประจวบคีรีขันธ์ 

โดยการตรวจเยี่ยมศาล วันที่ 10 สิงหาคม ประธานศาลฎีกา และคณะ พร้อมด้วยนายบุญชัย กริชชาญชัย อธิบดีผู้พิพากษาภาค 7 ตรวจเยี่ยมศาลจังหวัดสมุทรสาคร ศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดสมุทรสาคร ศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดสมุทรสงคราม ศาลจังหวัดสมุทรสงคราม ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 7 และศาลแรงงานภาค 7  โดยมีนางล้อมเพชร ไวทยานุวัตติ ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดสมุทรสาคร นายปองศักดิ์ นันทเสน ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดสมุทรสาคร นายสหรัฐ กิติศุภการ ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดสมุทรสงคราม นายสำฤทธิ์ ราชสมณะ ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดสมุทรสงคราม นายประดิษฐ์ จิตต์จำนงค์ อธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 7 นายสาธุ เพ็ชรไชย อธิบดีผู้พิพากษาศาลแรงงานภาค 7 พร้อมคณะ ให้การต้อนรับ
และในวันที่ 11 สิงหาคม ตรวจเยี่ยมศาลจังหวัดเพชรบุรี ศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดเพชรบุรี และศาลจังหวัดหัวหิน โดยมีนายพรศักดิ์ เชาวลิต ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดเพชรบุรี นางสาววันวิสาข์ สิรันทวิเนติ ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดเพชรบุรี และนายวรเมศฐ์ เกียรติฤทธินันท์ ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดหัวหิน พร้อมคณะ ให้การต้อนรับ 

ซึ่งประธานศาลฎีกาได้ประชุมมอบนโยบายแก่คณะผู้พิพากษา ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ ผู้ประนีประนอมและผู้พิพากษาสมทบ พร้อมทั้งรับฟังรายงานผลการดำเนินงานการปฏิบัติตามนโยบายประธานศาลฎีกา และแนวทางการปรับปรุงพัฒนาของศาล หลังจากนั้น ประธานศาลฎีกาได้ทักทาย พูดคุยและรับฟังปัญหาข้อขัดข้องจากคณะผู้พิพากษาและเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานตามส่วนงานต่าง ๆ รวมถึงให้กำลังใจในการปฏิบัติงานและขอให้ทุกคนมุ่งมั่นทำหน้าที่ของตนอย่างเต็มกำลังความสามารถเพื่อให้บริการประชาชนอย่างมีประสิทธิภาพ
ทั้งนี้ในการประชุมมอบนโยบาย ประธานศาลฎีกา กล่าวโดยสรุปว่า นโยบาย “รักศาล ร่วมใจ รับใช้ประชาชน” มีเป้าหมายสูงสุดในการสร้างความเชื่อมั่นศรัทธาของประชาชนที่มีต่อศาลยุติธรรม และเนื่องด้วยสภาพเศรษฐกิจสังคมที่เปลี่ยนแปลงไป บุคลากรศาลยุติธรรมต้องปรับเปลี่ยนวิธีการทำงานให้ทันสมัยเพื่อรองรับต่อสภาวการณ์ในปัจจุบัน โดยตระหนักถึงความสำคัญของภาระหน้าที่ และปฏิบัติงานอย่างเต็มกำลังความสามารถให้สมกับเกียรติที่ประชาชนมอบให้ ทั้งต้องสร้างความเชื่อมั่นแก่คู่ความว่า คดีจะได้รับการพิจารณาพิพากษาด้วยความรวดเร็ว เป็นธรรม ละเอียดรอบคอบ และมีคุณภาพ โดยประธานศาลฎีกา ยังกล่าวให้กำลังใจศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 7 ที่สามารถบริหารจัดการคดีจนใกล้จะกลับเข้าสู่เกณฑ์มาตรฐาน (ศาลสีเขียว) ในเร็ววันนี้ จึงขอให้รักษาแนวทางการบริหารจัดการคดีเช่นนี้ไว้ และกล่าวชื่นชมศาลแรงงานภาค 7 ด้วยว่า แม้ที่ผ่านมาจะมีข้อจำกัดทางด้านอาคารสถานที่ ประกอบกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ทำให้มีข้อพิพาททางด้านแรงงานเพิ่มมากขึ้น แต่ศาลแรงงานภาค 7 สามารถบริหารจัดการคดีจนกำลังจะกลายเป็นศาลสีเขียวภายในเดือนกันยายน 2566 นอกจากนี้ ประธานศาลฎีกาเน้นย้ำว่า ในการนำคดีเข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ย ขอให้ควบคุมระยะเวลาให้เป็นไปอย่างเหมาะสม ไม่พึงอนุญาตให้เลื่อนคดีโดยไม่จำเป็น เพื่อให้กระบวนพิจารณาแล้วเสร็จโดยเร็ว และ ประธานศาลฎีกายังกล่าวถึงโครงการจัดประกวดคัดเลือกศาลดีเด่นเพื่อประชาชนด้วยว่า เป็นโครงการที่จัดขึ้นเพื่อเป็นแรงจูงใจให้บุคลากรมีความตื่นตัวในการทำงาน ดังนั้น ไม่ว่าจะได้รับการคัดเลือกให้เป็นตัวแทนของกลุ่มศาลหรือไม่ หากมีการเดินหน้าพัฒนาระบบงานให้ก้าวหน้าและทันสมัย ก็ถือเป็นประโยชน์ต่อองค์กรและประชาชน

//////

ความคิดเห็น